มาทำความรู้จักหัวชาร์จ EV Charger แบบต่างๆกันเถอะ

มาทำความรู้จักหัวชาร์จ EV Charger แบบต่างๆกันเถอะ

มาเริ่มกันที่รู้จักคำว่าEV Charger (สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า) คืออะไร? EV Charger หรือ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ทำหน้าที่เป็นตัวชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า โดยสามารถแบ่งการชาร์จออกเป็น 3 แบบ

1. การชาร์จฯแบบเร็ว QUICK CHARGER การชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC Charging) สามารถชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า จาก 0% – 80% ได้ในเวลาประมาณ 40-60 นาที (ขึ้นอยู่กับความจุพลังงานแบตเตอรี่ กิโลวัตต์-ชั่วโมง) เหมาะกับผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการชาร์จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาเร่งด่วน ซึ่งประเภทหัวชาร์จของ Quick Charger ได้แก่ CHAdeMo, GB/T และ CCS

การชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC Charging) สามารถชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า จาก 0% – 80% ได้ในเวลาประมาณ 40-60 นาที (ขึ้นอยู่กับความจุพลังงานแบตเตอรี่ กิโลวัตต์-ชั่วโมง) เหมาะกับผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการชาร์จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาเร่งด่วน ซึ่งประเภทหัวชาร์จของ Quick Charger ได้แก่ CHAdeMo, GB/T และ CCS

หัวชาร์จแบบ  CHAdeMO เป็นคำย่อจากคำว่า CHArge de Move แปลได้ว่า ชาร์จไฟแล้วขับต่อไป เป็นชื่อระบบชาร์จไฟฟ้าแบบเร็วสำหรับ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งระบบ CHAdeMO มีการใช้แพร่หลายในประเทศญี่ปุ่น

หัวชาร์จแบบ GB/T โดยประเทศจีนเป็นผู้พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ภายในประเทศ ตอบรับการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่ารวดเร็วในประเทศ

หัวชาร์จแบบ CCS คำว่า CCS ย่อมาจาก Combined Charging System ซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้เป็น 2 ประเภท คือ

  • CCS TYPE 1 เป็นหัวชาร์จที่ใช้กับรถยนต์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ลักษณะของหัวชาร์จมีขนาดเล็กกว่า CCS Type 2 และรองรับแรงดันไฟฟ้าที่ 200 V – 500 V
  • CCS Type 2 เป็นหัวชาร์จที่นิยมใช้ในแถบทวีปยุโรป หัวชาร์จประเภทนี้จะมีขนาดใหญ่กว่า และมีกำลังไฟมากกว่าหัวชาร์จ CCS Type 1 ด้วย

2. การชาร์จฯ แบบธรรมดา แบบ DOUBLE SPEED CHARGE (เครื่องชาร์จ WALL BOX) 

การชาร์จแบบธรรมดาด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Charging) เช่นตู้ชาร์จติดผนังติดตั้งที่บ้านหรือตามห้างสรรพสินค้า ระยะเวลาการชาร์จจะลดลง อยู่ที่ประมาณ 4-7 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับกำลังไฟของเครื่องชาร์จ Wall box, ขนาดของแบตเตอรี่ และสเปคของรถ การชาร์จด้วยตู้ชาร์จติดผนังสามารถชาร์จได้รวดเร็วกว่าการต่อจากเต้ารับภายในบ้านโดยตรง โดยหัวชาร์จที่ใช้จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ

TYPE 1 เป็นหัวชาร์จที่ใช้กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศญี่ปุ่น

TYPE 2 เป็นหัวชาร์จที่นิยมใช้กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในแถบทวีปยุโรป

ทั้งนี้การติดตั้งตู้ชาร์จติดผนัง มิเตอร์ไฟของบ้านที่ติดตั้งต้องสามารถรองรับกระแสไฟฟ้าขั้นต่ำ 30(100)A

3. การชาร์จฯ แบบธรรมดา แบบ NORMAL CHARGE

การชาร์จไฟจากการต่อจากเต้ารับภายในบ้านโดยตรง มิเตอร์ไฟของบ้านต้องสามารถรองรับกระแสไฟฟ้าขั้นต่ำ 15(45)A และเต้ารับไฟในบ้านต้องได้รับการติดตั้งใหม่ เป็นเต้ารับเฉพาะการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าไม่สามารถใช้เต้ารับแบบธรรมดาได้ ทั้งนี้การติดตั้งต้องได้รับมาตรฐานจากผู้เชี่ยวชาญด้านไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานในระยะยาว 

การชาร์จในลักษณะนี้มักจะเป็นการชาร์จแบบไฟฟ้ากระแสสลับ จึงใช้ระยะเวลาในการชาร์จประมาณ 12-15 ชั่วโมง หัวชาร์จที่ใช้มีดังนี้

TYPE 1 หัวชาร์จที่นิยมใช้ทวีปอเมริกาเหนือและประเทศญี่ปุ่น เป็นหัวชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสสลับใช้กับแรงดันไฟฟ้าที่ 120 V หรือ 240 V

TYPE 2 หัวชาร์จที่นิยมใช้ในแถบทวีปยุโรป เป็นหัวชาร์จแบบพลังงานไฟฟ้ากระแสสลับ รองรับแรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 120 V หรือ 240 V

ในอนาคตการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะไร้ข้อกังวล เนื่องจากเทคโนโลยีการชาร์จในปัจจุบันสามารถติดตั้งตู้ชาร์จได้ที่บ้านของคุณเอง อีกทั้งสถานีบริการพลังงานไฟฟ้าของผู้ให้บริการต่างๆ ก็มีแผนจะทำจุดชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทย เพื่อให้ผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารู้สึกสะดวกสบายมากขึ้นและสามารถเติมพลังงานได้ทุกที่ที่ต้องการ

และต่อมาประเภทของหัวชาร์จ ปัจจุบันมีการนำรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยมากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่สร้างความกังวลให้แก่ผู้ที่จะตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าอยู่มาก นอกจากประสิทธิภาพการวิ่ง ความทนของชิ้นส่วน และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาแล้ว เรื่องหัวปลั๊ก หรือหัวชาร์จเองก็สร้างกังวลไม่แพ้กัน ซึ่งหัวชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีหลากหลายรูปแบบตามผู้ผลิตและประเทศที่จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า โดยสามารถแบ่งเป็นประเภทได้และรูปแบบดังนี้

หัวชาร์จสำหรับไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) Type 1 รูปแบบหัวชาร์จนี้นิยมใช้ใน EV ของฝั่งอเมริกาและญี่ปุ่น หัวต่อแบบ 5 Pin เป็นการชาร์จแบบ Single Phase รองรับกระแสไฟฟ้าได้ 32A (7.4 kWh)

หัวชาร์จสำหรับไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) Type 2 Type 2 นั้นเป็นรูปแบบที่นิยมใช้สำหรับ EV ในยุโรป สามารถพบได้ทั่วไปตามสถานีชาร์จสาธารณะ เป็นหัวต่อ 7 Pin จ่ายไฟอยู่ที่ 3.7kW แต่ในผู้ผลิตบางรายได้พัฒนาให้เป็นรูปแบบ 3 Phase ทำให้จ่ายไฟได้ถึง 22kW และมีเพียง Tesla เท่านั้นที่มีการใช้ Type 2 แบบ DC โดยตามเอกสารนั้นสามารถจ่ายไฟได้ถึง 130kW สำหรับชนิดนี้จะใช้งานค่อนข้างแพร่หลายในไทย เนื่องจากรถยนต์ยุโรป เกาหลีใต้ และจีนจะนิยมใช้ปลั๊กรูปแบบนี้

หัวชาร์จสำหรับไฟฟ้ากระแสตรง (DC) CHAdeMO หัวชาร์จรูปแบบนี้จะพบได้ใน รถยนต์ญี่ปุ่น จีน อเมริกา ซึ่งปลั๊กรูปแบบนี้จะมีใช้งานอย่างแพร่หลาย โดยในเมืองไทยยังไม่ค่อยนิยมใช้งาน

หัวชาร์จสำหรับไฟฟ้ากระแสตรง (DC) Combined Charging System หัวชาร์จรูปแบบนี้มีกำลังสูง ถือเป็นการชาร์จแบบ DC ที่ได้รับความนิยมเป็นมาตรฐานทั่วไป สามารถรองรับได้ทั้งการชาร์จแบบกระแสสลับและกระแสตรงในหนึ่งเดียว โดยด้านบนสุดจะเป็นปลั๊กสำหรับไฟฟ้ากระแสสลับ ส่วนด้านล่างจะเป็นปลั๊กกระแสตรง ซึ่งจะมีการแยกความแตกต่างกันโดย CCS Type 1 (CCS Combo 1) จะสัมพันธ์กับปลั๊กแบบ AC Type 1 ส่วน CCS Type 2 (CCS Combo 2) จะสัมพันธ์กับปลั๊กแบบ AC Type 2 แน่นอนว่าแบบที่สองจะใช้งานอย่างแพร่หลายในเมืองไทยที่เป็น สถานีชาร์จรถไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ให้เราได้จอดแวะพักและชาร์จพลังงานได้หลายๆ แห่ง

ภาพประกอบ และที่มา : evplaza.com / nissan.co.th